เผยแพร่ใน การตลาดอสังหาริมทรัพย์

PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ อย่างไร?

ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของชาวกรุงเทพฯ โดยตรงด้านสุขภาพ อีกทั้งยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมาที่ ฝุ่น PM 2.5 ได้กลายเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงแนวโน้มการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ของผู้ประกอบการ

ปัญหาฝุ่น Pm 2.5

เนสโทปา ได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ PM 2.5 และผลกระทบที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ เพื่อให้คุณเข้าใจแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พร้อมแนวทางรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างรอบด้าน


สารบัญ

  • PM 2.5 คืออะไร ?
  • สาเหตุของฝุ่น PM 2.5
  • ผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต
  • PM 2.5 ทำให้ตลาดซื้อ-เช่าที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไปอย่างไร?
  • ดีเวลลอปเปอร์รับมือกับปัญหาฝุ่นอย่างไร ?
  • ผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 
  • มาตรการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในภาคอสังหาริมทรัพย์
  • อนาคตของอสังหาฯ กรุงเทพฯ กับปัญหาฝุ่น PM 2.5

ก่อนที่เราจะพาคุณทุกคนไปรู้ความเสี่ยงเกี่ยวกับเศรษฐกิจ เรามาดูกันก่อนว่า ฝุ่น PM 2.5 คืออะไรและอันตรายแค่ไหน

ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร?

PM 2.5 ย่อมาจาก Particulate Matter ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่เมื่อมีปริมาณที่มากขึ้นจดูเหมือนเป็นหมอกหรือควันนั้นเอง และสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจลึกถึงปอดและกระแสเลือดได้ ซึ่งอยากสูดดมเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้กระตุ้นให้ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจเรื้อรังมีอาการกำเริบ 

ฝุ่น PM 2.5 จากโรงงาน

สาเหตุของฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ

โดยสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ ได้แก่

  • การจราจรหนาแน่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงจากยานพาหนะปล่อยฝุ่นละอองและก๊าซมลพิษสู่บรรยากาศ
  • การเผาขยะ เผาป่า เผาหญ้า การเผาขยะหรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่ใกล้เคียง
  • การก่อสร้าง ฝุ่นจากการก่อสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ
  • โรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้เชื้อเพลิงในโรงงาน และการปล่อยมลพิษจากกระบวนการผลิต

นอกจากนี้ ปัจจัยทางภูมิอากาศ เช่น ลมสงบและอุณหภูมิต่ำ ยังส่งผลให้ฝุ่นสะสมในบรรยากาศมากขึ้น

ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลต่อสุขภาพ

ผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต

ปัญหาของฝุ่น PM 2.5 มีผลกระทบต่อสุขภาพหลายประการ 

  • โรคระบบทางเดินหายใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
  • ระบบหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือดและความดันโลหิตสูง
  • ระบบผิวหนัง ทำให้เกิดการระคายเคืองและโรคผิวหนังอักเสบ
  • ส่งผลต่อสมอง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดในสมอง เพราะเมื่อความดันโลหิตสูงเลือดจะมีความหนืด 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
มัดรวม 7 วิธีป้องกัน PM2.5 ทำอย่างไร 
7 วิธีกำจัดฝุ่นในบ้านแบบง่าย ๆ

เนสโทปา ชวนมาเช็คค่าฝุ่นเพื่อดูระดับความเสี่ยงต่อสุขภาพ

AQI 
ความหมาย แนวทางป้องกัน
0-25
อากาศดีมาก เหมาะสำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้งและท่องเที่ยว
26-50 อากาศดี ทำกิจกรรมและท่องเที่ยวได้ปกติ
51-100 อากาศปานกลาง กลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้ง
101-200 เสี่ยงมีผลกระทบต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
200+ อันตรายเสี่ยงต่อสุขภาพ งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง
เช็คค่าฝุ่นคลิกที่นี่

PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ อย่างไร?

PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ อย่างไร?

จากรายงานของ AirVisual (iqair.com) ระบุว่า กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มักมีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน อันเนื่องมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง การจราจรหนาแน่น และปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยา สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ความต้องการของผู้บริโภค และแนวโน้มการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ

1. PM 2.5 ทำให้ตลาดซื้อ-เช่าที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไปอย่างไร?

ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีมลพิษสูงลดลง

พื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง เช่น บริเวณถนนสายหลัก แหล่งอุตสาหกรรม หรือใจกลางเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อาจเผชิญกับภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพอากาศดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการเช่าและซื้อในพื้นที่เหล่านี้ลดลง

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่สีเขียวและชานเมือง

โครงการที่อยู่อาศัย ที่ตั้งอยู่ใกล้สวนสาธารณะ ริมแม่น้ำ หรือพื้นที่สีเขียว กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพและคุณภาพอากาศมากขึ้น นอกจากนี้ โครงการแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมในเขตชานเมือง ก็เป็นที่ต้องการสูงขึ้น เพราะสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมภายในบ้านได้ดีกว่าคอนโดมิเนียมในเมือง

2. ดีเวลลอปเปอร์รับมือกับปัญหาฝุ่นอย่างไร ?

ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูงมีแนวโน้มลดลง

พื้นที่ที่เผชิญปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง อาจประสบปัญหาราคาที่ดินและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ลดลง เนื่องจากผู้ซื้อให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และมีแนวโน้มเลือกลงทุนในทำเลที่มีอากาศสะอาดกว่า

โครงการที่มีเทคโนโลยีฟอกอากาศเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้น

ปัจจุบันคอนโดและบ้านที่ติดตั้งระบบกรองอากาศ เครื่องฟอกอากาศ หรือออกแบบให้มีระบบหมุนเวียนอากาศที่ดี จะได้รับความนิยมมากขึ้น โครงการที่สามารถตอบโจทย์เรื่องสุขภาพและคุณภาพอากาศได้ดี มีโอกาสปรับราคาขายให้สูงขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีกว่า

หาบ้านในทำเลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คลิกที่นี่

โครงการที่มีเทคโนโลยีฟอกอากาศ

การออกแบบอาคารที่ป้องกันมลพิษมากขึ้น

นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารที่ช่วยลดผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ เช่น

  • ติดตั้งเครื่องกรองอากาศภายในโครงการ
  • ใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยป้องกันฝุ่น
  • ออกแบบอาคารให้มีระบบระบายอากาศที่ดี
  • จัดพื้นที่สีเขียวในโครงการเพื่อช่วยกรองอากาศ

การเลือกทำเลที่มีคุณภาพอากาศหรือการป้องกันที่ดีกว่า

ดีเวลลอปเปอร์โครงการบางรายเลือกพัฒนาโครงการในพื้นที่ ที่มีอากาศบริสุทธิ์ขึ้น เช่น ย่านชานเมือง หรือพื้นที่ที่อยู่ติดกับแหล่งธรรมชาติ เช่น ริมแม่น้ำ หรือใกล้สวนสาธารณะ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการ

เครื่องฟอกอากาศในออฟฟิศ

3. ผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 

การเช่าพื้นที่สำนักงานอาจได้รับผลกระทบ

หลายบริษัทและธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตพนักงาน อาจพิจารณาย้ายสำนักงานไปยังเมืองที่มีคุณภาพอากาศที่ดีกว่า หรือเลือกอาคารสำนักงานที่มีมาตรการป้องกันฝุ่นละออง เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน

อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในบางพื้นที่อาจมีมูลค่าลดลง

ศูนย์การค้าและร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง อาจประสบปัญหาจากผู้ใช้บริการลดลง ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจเชิงพาณิชย์นั้นลดลงตามไปด้วย และความสามารถในการปล่อยเช่าพื้นที่ลดลง

ติดตั้งระบบหมุนเวียนอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้

4. มาตรการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในภาคอสังหาริมทรัพย์

สำหรับผู้พัฒนาโครงการ

  • ออกแบบอาคารให้มีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง

  • ใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยป้องกันฝุ่นและมลพิษ

  • จัดพื้นที่สีเขียวภายในโครงการเพื่อช่วยดูดซับมลพิษทางอากาศ

  • ติดตั้งระบบหมุนเวียนอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้

  • ใช้สีและวัสดุป้องกันมลพิษที่สามารถลดการสะสมของฝุ่นละออง

สำหรับผู้บริโภค

  • เลือกที่อยู่อาศัยที่มีระบบป้องกันฝุ่นละออง เช่น หน้าต่างกันฝุ่นและเครื่องฟอกอากาศ

  • ตรวจสอบคุณภาพอากาศของทำเลที่ตั้งก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

  • ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านที่มีแผ่นกรอง HEPA 12 ขึ้นไป

  • ปลูกต้นไม้ช่วยกรองอากาศภายในบ้านและบริเวณรอบ ๆ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง

  • หลีกเลี่ยงการเปิดหน้าต่างในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง และใช้เครื่องปรับอากาศที่มีระบบกรองอากาศ


อนาคตของอสังหาฯ กรุงเทพฯ กับปัญหาฝุ่น PM 2.5

ในระยะยาว ปัญหา PM 2.5 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ นักลงทุนและผู้พัฒนาโครงการจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศและแนวทางการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน เพื่อให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์สามารถเติบโตต่อไปได้แม้เผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม

สรุป

PM 2.5 ส่งผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภค มูลค่าทรัพย์สิน และทิศทางการพัฒนาโครงการในอนาคต หากไม่มีมาตรการแก้ไขที่ชัดเจน ปัญหานี้อาจกระทบต่อการลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวมของกรุงเทพฯ ในระยะยาว

Naipaporn
Naipaporn Janbang ผู้เขียน
Property Content Specialist

Experienced content creator specializing in social media marketing, with a focus on the property market. Also, an SEO content specialist with over three years of experience in property marketing. Proficient in leveraging various digital channels to maximize brand exposure and drive engagement.

สนใจลงข่าวสาร บน nestopa.com
ไลฟ์สไตล์ กรุงเทพ
Nestopa