เผยแพร่ใน ทิปส์ & ไลฟ์สไตล์

มัดรวม 7 วิธีป้องกัน PM2.5 ทำอย่างไรได้บ้าง?

ฝุ่น PM2.5 กลายเป็นปัญหาใหญ่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ และพื้นที่ที่มีกิจกรรมอุตสาหกรรม ฝุ่นละอองชนิดนี้มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แต่กลับสามารถลอยอยู่ในอากาศและเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ PM2.5 ยังมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดทัศนวิสัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความเสียหายต่อพืชและสัตว์ การป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM2.5 จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ เพื่อปกป้องสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัว

ผลกระทบต่อสุขภาพในระยะสั้น: การระคายเคืองตา จมูก และลำคอ อาการหายใจลำบาก หรืออาการกำเริบของโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด
ผลกระทบในระยะยาว: PM2.5 สามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดและสะสมในร่างกายได้ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ มะเร็งปอด และโรคปอดเรื้อรัง

7 วิธีป้องกัน PM2.5 ทำอย่างไรได้บ้าง

1. เครื่องฟอกอากาศ

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันฝุ่น PM2.5 ภายในบ้านคือ การใช้เครื่องฟอกอากาศ เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอนุภาคขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air) แผ่นกรองชนิดนี้สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก เช่น PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปริมาณฝุ่นในอากาศได้มากกว่าแผ่นกรองทั่วไป
  • ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนหรือพื้นที่ที่ใช้เวลามากที่สุด ห้องนอนเป็นพื้นที่ที่เราใช้เวลานอนหลับและพักผ่อนหลายชั่วโมง การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในบริเวณนี้จะช่วยให้อากาศสะอาดและปลอดภัยต่อการหายใจ
  • เปลี่ยนแผ่นกรองตามคำแนะนำ เพื่อรักษาประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศ ควรตรวจสอบและเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำ หากแผ่นกรองอุดตัน ประสิทธิภาพของเครื่องจะลดลง ทำให้อากาศที่ฟอกไม่สะอาดอย่างที่ควร

เครื่องฟอกอากาศ

2. แผ่นกรองฝุ่น

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับลดมลพิษในอากาศ โดยเฉพาะการดักจับฝุ่นขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

  • แผ่นกรองอากาศ (Air Filter) ทำจากวัสดุที่มีรูพรุนละเอียด เช่น ไฟเบอร์ที่มีความสามารถในการกรองฝุ่นและมลพิษ ติดตั้งในเครื่องฟอกอากาศหรือในเครื่องปรับอากาศ เพื่อกรองฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ
  • แผ่นกรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air) นิยมในการดักจับฝุ่น PM2.5 เนื่องจากสามารถกรองฝุ่นและมลพิษที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้สูงถึง 99.97% ถูกใช้ในเครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชันกรองฝุ่น
  • แผ่นกรองไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Filters) ใช้แรงไฟฟ้าสถิตเพื่อจับฝุ่นที่มีประจุอ่อน ๆ ซึ่งสามารถดักจับฝุ่นได้ดี ใช้ในเครื่องฟอกอากาศบางประเภท หรือเป็นส่วนหนึ่งของระบบกรองอากาศที่มีความสามารถในการดักจับฝุ่นขนาดเล็ก

ดูดฝุ่น

3. สเปรย์ฟอกอากาศ

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดมลพิษในอากาศภายในบ้านในระยะสั้น ๆ เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดการสัมผัสกับฝุ่นภายในบ้านหรือพื้นที่ปิด

  • สะดวกในการใช้ เพียงแค่ฉีดสเปรย์ในพื้นที่ที่ต้องการ ไม่ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ใหญ่ ๆ ก็สามารถลดมลพิษในอากาศภายในบ้านได้
  • ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากจะช่วยลดฝุ่น PM2.5 สเปรย์ฟอกอากาศบางประเภทยังสามารถช่วยขจัดกลิ่นในบ้านได้ เช่น กลิ่นอาหาร กลิ่นควัน หรือกลิ่นอับ

สเปรย์ฟอกอากาศ

4. ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน

เป็นวิธีธรรมชาติในการช่วยฟอกอากาศ ต้นไม้บางชนิดมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถดูดซับสารพิษและช่วยเพิ่มคุณภาพของอากาศภายในบ้านได้

  • ลิ้นมังกร เป็นต้นไม้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความสามารถในการดูดซับสารพิษในอากาศ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ ไตรคลอโรเอทิลีน และเบนซีน นอกจากนี้ ลิ้นมังกรยังมีคุณสมบัติพิเศษในการปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน ทำให้เหมาะสำหรับวางไว้ในห้องนอน
  • เศรษฐีเรือนใน เป็นต้นไม้ที่ดูแลง่ายและสามารถช่วยกรองอากาศ ลดปริมาณฝุ่นละออง และดูดซับสารพิษบางชนิด เช่น คาร์บอนไดออกไซด์และฟอร์มาลดีไฮด์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้เหมาะสำหรับบ้านในเมืองที่มีอากาศแห้ง
  • ปาล์มไผ่ เป็นต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความชื้นในอากาศ เหมาะสำหรับวางในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ยังช่วยดูดซับสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น เบนซีน และช่วยฟอกอากาศให้สะอาดสดชื่นได้

ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ

5. ปิดประตู - หน้าต่างให้สนิท

การปิดประตูและหน้าต่างให้สนิทเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการป้องกัน PM2.5 ไม่ให้เข้ามาในบ้าน

  • ใช้ซีลกันฝุ่นหรือฟิล์มกันฝุ่นติดหน้าต่าง ฟิล์มกันฝุ่นช่วยให้ประตูและหน้าต่างปิดสนิทมากยิ่งขึ้น ป้องกันฝุ่นที่เล็ดลอดเข้ามาจากข้างนอก เช่น ฟิล์มที่มีคุณสมบัติพิเศษในการกันฝุ่น และซีลยางที่ช่วยปิดช่องว่างระหว่างกรอบประตูและหน้าต่าง ซึ่งสามารถติดตั้งได้ง่ายและไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
  • หลีกเลี่ยงการเปิดหน้าต่างในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง ค่าฝุ่น PM2.5 มักจะสูงในช่วงเช้าและเย็น โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่การจราจรหนาแน่นหรือในช่วงเย็นที่ฝุ่นจากการเผาไหม้ (เช่น การเผาขยะหรือการใช้ฟืน) มักสะสมในชั้นอากาศใกล้พื้นดิน การหลีกเลี่ยงการเปิดหน้าต่างในช่วงนี้สามารถช่วยลดการรับฝุ่นจากภายนอกเข้ามาในบ้านได้

ปิดหน้าต่างป้องกัน PM2.5

6. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานาน เช่น การออกกำลังกาย

  • ลดกิจกรรมกลางแจ้งและใช้ชีวิตในพื้นที่ปิด ควรเลือกทำกิจกรรมที่ไม่ต้องออกจากบ้านหรือทำในพื้นที่ที่มีการควบคุมคุณภาพอากาศ เช่น การใช้เครื่องฟอกอากาศหรือการอยู่ในห้องที่ปิดมิดชิด เพื่อลดการสัมผัสกับฝุ่นภายนอก
  • สวมหน้ากากกรองฝุ่นชนิด N95 หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกในวันที่มีค่าฝุ่นสูง การสวมหน้ากาก N95 เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันฝุ่น PM2.5 ไม่ให้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ หน้ากาก N95 สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กถึง 95% และช่วยลดการสัมผัสกับมลพิษทางอากาศ รวมถึงเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้

สวมหน้ากากป้องกัน PM2.5

7. ติดตามข่าวสารและเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ

เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สามารถรับรู้สถานการณ์ของฝุ่นในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที

  • ใช้แอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์วัดค่าฝุ่นภายในบ้าน สามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในบ้านได้ตลอดเวลา เช่น เครื่องวัดค่าฝุ่น (PM2.5) ที่สามารถติดตั้งในบ้านเพื่อช่วยให้ติดตามระดับฝุ่นในห้องต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ
  • เช็คค่าฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ก่อนที่จะออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรตรวจสอบข้อมูลค่าฝุ่น PM2.5 จากแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในพื้นที่นั้น ๆ ตัวอย่างแอปพลิเคชันที่ใช้เช็คค่าฝุ่น เช่น Air4Thai หรือ IQAir ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ตรงนั้นได้

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ PM2.5

การป้องกันฝุ่น PM2.5 เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องใส่ใจ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว เพราะฝุ่นละอองชนิดนี้สามารถสร้างผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อระบบทางเดินหายใจและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย การปฏิบัติตามวิธีป้องกันที่ได้แนะนำไป เช่น การใช้เครื่องฟอกอากาศ, การสวมหน้ากากกรองฝุ่น, การปิดประตู - หน้าต่างให้สนิท รวมถึงการหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสกับ PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารและการเฝ้าระวังคุณภาพอากาศในพื้นที่ ก็จะช่วยให้สามารถปรับตัวได้ทันท่วงที และป้องกันการรับฝุ่นเข้าไปในร่างกายอย่างไม่รู้ตัว ทุกคนควรตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลตัวเองจากมลพิษทางอากาศ เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ และรักษาคุณภาพชีวิตให้ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5

ใครที่กำลังหาบ้าน/ คอนโด ค้นหาได้ที่ Nestopa.com

Titirat
Titirat Prakobkhaothong ผู้เขียน
Content Creator and SEO Specialist

I specialize in creating compelling real estate content, combining industry expertise with a passion for storytelling. Skilled in crafting SEO-optimized, engaging materials, I focus on connecting with audiences and delivering valuable insights that inform and inspire.

สนใจลงข่าวสาร บน nestopa.com
ไลฟ์สไตล์
Nestopa