บ้านมือสองเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่ใหม่ แต่การซื้อบ้านมือสองควรตรวจเช็คอย่างละเอียดเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเมื่ออยากต่อเติมหรือรีโนเวท ดังนั้น การตรวจเช็คบ้านมือสองก่อนที่จะโอนกรรมสิทธิ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก วันนี้ เนสโทปา จะมาบอก 12 ลิสต์ตรวจเช็คบ้านมือสองก่อนโอน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!
12 ลิสต์ตรวจเช็คบ้านมือสองก่อนโอน
1. งานรั้วรอบบ้าน
รั้วเป็นสิ่งแรกที่ควรตรวจสอบ เพราะเป็นแนวป้องกันของบ้าน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ารั้วไม่มีการเอียงหรือแตกร้าว หากพบว่ามีรอยร้าวตามแนวรั้ว อาจเกิดจากปัญหาการทรุดตัวของดิน หรือการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน หากบริเวณรั้วทรุดเช็คได้จากเสาคั่นช่วง 3 - 3.5 ม. ของเสา นอกจากนี้ ควรดูว่าวัสดุที่ใช้ทำรั้ว เช่น ปูน ไม้ หรือเหล็ก มีการผุพังหรือขึ้นสนิมหรือไม่ หากเป็นรั้วไม้ควรดูว่ามีปัญหาเรื่องปลวกหรือความชื้นหรือไม่ ส่วนรั้วเหล็กควรดูว่ามีสนิมที่อาจต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่หรือไม่
2. งานพื้นรอบตัวบ้าน
พื้นรอบตัวบ้านมีผลต่อการระบายน้ำและการทรุดตัวของโครงสร้างบ้าน ควรตรวจสอบว่ามีการแตกร้าวหรือการทรุดตัวที่ผิดปกติหรือไม่ หากพบว่าพื้นเอียงหรือต่างระดับกันมาก อาจเป็นสัญญาณว่าบ้านมีปัญหาเรื่องโครงสร้างหรือดินบริเวณนั้นอาจมีการทรุดตัว นอกจากนี้ควรดูว่ามีจุดที่น้ำขังหลังฝนตกหรือไม่ หากมีน้ำขังแสดงว่าอาจต้องปรับปรุงระบบระบายน้ำเพิ่มเติม
3. งานโครงสร้างบ้าน
โครงสร้างเป็นหัวใจสำคัญของบ้าน ควรตรวจสอบเสา คาน และโครงสร้างหลังคาว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความเสียหายหรือความทรุดโทรมที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือสาเหตุอื่น ๆ มาก่อน หากพบรอยร้าวที่เสาหรือคาน ควรให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบว่ารอยร้าวนั้นเป็นเพียงรอยแตกลายงา (ซึ่งอาจเกิดจากปูนแห้ง) หรือเป็นรอยร้าวที่อาจส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง นอกจากนี้ ควรสังเกตว่าโครงสร้างมีร่องรอยของปลวกหรือความชื้นหรือไม่ด้วย
4. งานพื้นภายในบ้าน
พื้นบ้านควรอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีรอยแตก โก่งงอ หรือหลุดล่อน หากเป็นพื้นกระเบื้องควรเคาะดูว่ามีช่องว่างด้านล่างหรือไม่ เพราะอาจเป็นสัญญาณว่ากระเบื้องติดตั้งไม่แน่น และต้องเช็คยาแนวให้ดี หากเป็นพื้นไม้ควรตรวจสอบว่ามีรอยขีดข่วนหรือร่องรอยปลวกหรือไม่ นอกจากนี้ควรเดินทดสอบทุกห้องเพื่อดูว่าพื้นมีเสียงดังหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน
วิธีดูแลพื้นแต่ละชนิด เพื่อถนอมพื้นให้อยู่กับเราไปอีกนาน
5. งานประตู - หน้าต่าง
ตรวจสอบว่าประตูและหน้าต่างสามารถเปิด - ปิดได้สะดวก ไม่มีการฝืดหรือขัดกัน ตรวจสอบบานพับและกลอนประตูว่ามีสนิมหรือชำรุดหรือไม่ หากเป็นประตูไม้ควรตรวจสอบว่ามีการบวมจากความชื้นหรือไม่ และหากเป็นประตูอลูมิเนียมควรดูว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบขอบวงกบว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาโครงสร้างบ้าน
6. งานหลังคา
หลังคาเป็นจุดที่ต้องให้ความสำคัญเพราะหากมีปัญหาจะส่งผลกระทบต่อบ้านทั้งหลัง ควรตรวจสอบว่าแผ่นหลังคามีรอยแตกร้าวหรือชำรุดหรือไม่ หากเป็นหลังคากระเบื้องให้ดูว่ามีแผ่นใดที่หายไปหรือมีรอยรั่วหรือไม่ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบรางน้ำฝนว่ามีรอยรั่วหรืออุดตันหรือไม่ โดยสามารถทดลองฉีดน้ำขึ้นไปบนหลังคาเพื่อตรวจสอบการไหลของน้ำ
7. งานฝ้าและเพดาน
ฝ้าและเพดานควรเรียบเนียนและไม่มีรอยแตกร้าวหรือคราบน้ำซึม หากพบรอยน้ำซึม อาจเป็นสัญญาณว่าหลังคามีปัญหาหรือระบบท่อน้ำรั่ว นอกจากนี้ควรตรวจสอบว่ามีเชื้อราขึ้นหรือไม่ เพราะเชื้อราสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้
8. งานผนัง
ผนังบ้านเป็นส่วนที่เช็คง่ายเพราะดูได้จากตาเปล่า ตรวจสอบว่าผนังมีรอยแตกร้าวหรือรอยรั่วซึมหรือไม่ หากพบรอยร้าวแนวเฉียง อาจเป็นสัญญาณของปัญหาโครงสร้าง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผนังไม่มีร่องรอยความชื้นหรือเชื้อรา โดยเฉพาะบริเวณห้องน้ำและผนังที่ติดกับภายนอกบ้าน
ผนังร้าว! ปัญหาใหญ่ประจำบ้านที่ไม่ควรมองข้าม
9. งานบันได
บันไดควรมีขนาดที่สม่ำเสมอและเดินขึ้นลงได้อย่างสะดวกโดยไม่มีเสียงดังจากการก้าวเดิน หากพบเสียงดังหรือการโยกของราวบันได อาจต้องซ่อมแซมเพิ่มเติม นอกจากนี้ควรตรวจสอบว่าขั้นบันไดไม่มีการทรุดหรือแตกร้าว
10. งานระบบไฟฟ้า
บ้านมือสองเสี่ยงต่อการชำรุดของระบบไฟฟ้าอยู่แล้ว ตรวจสอบสวิตช์ไฟทุกจุดว่าทำงานได้ตามปกติ ลองเสียบปลั๊กไฟและเปิดไฟทุกดวงเพื่อตรวจสอบว่าสายไฟอยู่ในสภาพดี ไม่มีจุดที่ขาดหรือชำรุด หากพบปัญหาควรให้ช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ นอกจากนี้ควรเช็คเบรกเกอร์ไฟฟ้าว่าทำงานได้ปกติ
11. งานระบบน้ำ
ต้องเช็คระบบน้ำเพราะเป็นบ้านมือสอง โดยเปิดก๊อกน้ำทุกจุดเพื่อตรวจสอบแรงดันน้ำ ตรวจดูว่ามีน้ำรั่วซึมหรือไม่ นอกจากนี้ให้ลองปิดน้ำทั้งหมดแล้วตรวจสอบมิเตอร์น้ำ หากมิเตอร์ยังหมุนอยู่แสดงว่ามีจุดรั่วซึม ควรให้ช่างประปาตรวจสอบเพิ่มเติม
12. งานสุขาภิบาล
แนะนำให้ลองเปิดใช้งานเพื่อเช็คว่ายังใช้งานได้อย่างปกติหรือมีจุดไหนที่ต้องแก้ไขหรือไม่ ควรตรวจสอบการทำงานของสุขภัณฑ์ทั้งหมด เช่น อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ โถส้วม ว่าระบายน้ำได้ดีหรือไม่ ลองกดน้ำในโถส้วมเพื่อตรวจสอบแรงดันน้ำและการระบายของเสีย หากมีปัญหาน้ำไหลช้า อาจต้องตรวจสอบท่อน้ำว่ามีการอุดตันหรือไม่
การตรวจสอบบ้านมือสองให้ละเอียดก่อนซื้อจะช่วยให้หลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และช่วยให้มั่นใจว่าได้รับบ้านที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป หากพบปัญหาใด ๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือต่อรองราคาให้เหมาะสมกับสภาพบ้าน
สนใจบ้านมือสองทำเลทอง
คลิปเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เช็คบ้านก่อนเซ็นซื้อบ้านมือ 2
