เผยแพร่ใน ทิปส์ & ไลฟ์สไตล์

เกษียณอย่างไรให้ไม่ลำบาก? ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงพอใช้ตลอดชีวิต

การเกษียณไม่ใช่แค่การหยุดพักหลังชีวิตการทำงานที่ยาวนาน แต่ยังหมายถึงการปรับตัวเข้าสู่สภาวะใหม่ที่อาจไม่ได้มีรายรับในส่วนของเงินเดือนจากที่เคยได้ จากการสำรวจพบว่า จำนวนคนไทยที่ยังไม่พร้อมกับการเกษียณคือการที่มีเงินออมสำรองไม่ถึง 6 เดือน มีสัดส่วนถึง 78% และคนไทยหลายคนยังคงจำเป็นต้องใช้ ‘เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ’ ที่ได้รับประมาณ 600-1,000 บาทต่อเดือนเพื่อยังชีพ ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่ทำให้บุคคลใช้ชีวิตอย่างสบายกายใจและมั่นคงเท่าไรในยุคปัจจุบัน

การวางแผนวัยเกษียณนั้นเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต ที่ต้องใช้ทั้งเวลา ความรู้ และการวางแผนที่ดี เพื่อให้เมื่อถึงวัยเกษียณ คุณจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ รักษาคุณภาพชีวิตที่คุณต้องการ และมีอิสรภาพทั้งทางการเงินและการเลือกใช้ชีวิตอย่างเต็มที่

ความจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับการเกษียณในไทย

หญิงสูงอายุนั่งกอดเข่า แสดงถึงความกังวล

อ้างอิงจากบทความของ Thairath Money พบว่า ในปัจจุบันสถานการณ์การเงินของคนไทยในวัยเกษียณอยู่ในขั้นภาวะวิกฤต พบว่ากลุ่มคนที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณและคนที่เกษียณไปแล้วที่ไม่เคยวางแผนการเงินเลยมีสัดส่วนมากถึง 15-21% และสัดส่วนของคนที่มีการวางแผนไว้แต่เก็บไม่ถึงเป้าก็กลายเป็นคนส่วนใหญ่ในสังคม โดย 42-47% ของคนเกษียณในปัจจุบันในประเทศไทยก็ยังมีเงินออมไม่พอใช้ตามแผนชีวิตที่ตั้งไว้

สถิตินี้สะท้อนให้เราเห็นว่า ไม่ควรเชื่อหรือคาดหวังว่า เดี๋ยวในอนาคตเราก็จะหาทางเก็บเงินได้เอง แต่ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างและเพิ่มโอกาสที่เราจะได้เป็นผู้สูงวัยที่มั่นคงทางการเงินที่มีอิสระภาพในการใช้ชีวิตด้วยตนเองได้ในอนาคต

ซึ่งข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยชี้ให้เห็นว่า หากคุณเริ่มทำงานตั้งแต่หลังเรียนจบในอายุ 22 ปี คุณจะมีระยะเวลาในการทำงานเพื่อเก็บออมเงินและลงทุนเพียง 38 ปี หรือประมาณ 456 เดือน เพื่อรองรับการใช้ชีวิต 20 ปีหลังเกษียณ ที่จะมีค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะไม่ได้มีรายได้ใหม่เข้ามา

และยังมีสติถิใหม่ที่แสดงให้เห็นว่าความเป็นไปได้ที่คนเราจะมีโอกาสใช้ชีวิตยาวนานมากขึ้น อย่างสถิติข้อมูลจำนวนผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 100 ปีในแต่ละจังหวัด ที่พบว่าชาวกรุงเทพมีผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่าร้อย ปีถึง 7,470 คน รองลงมาคือ นนทบุรี 1,729 คน ชลบุรี 1,310 คน เชียงใหม่ 1,296 คน และนราธิวาส 1,232 คน สะท้อนให้เห็นว่าเราอาจต้องเตรียมเก็บออมเงินและลงทุนเพื่อใช้จ่ายหลังเกษียณมากกว่า 20 ปีตามการคาดการณ์ทั่วไป ทำให้การวางแผนทางการเงินในระยะยาวเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้นไปอีก

การเตรียมเงินสำหรับชีวิตหลังเกษียณ

การคำนวณเงินสำหรับเก็บไว้ใช้ในชีวิตเกษียณอาจเริ่มจากการคิดคำนวณจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน เช่น หากคุณมีรายจ่ายที่จำเป็นต่อดือนประมาณ 20,000 บาท ก็หมายความว่าคุณจะต้องเตรียมเงินประมาณ 4,800,000 บาท สำหรับชีวิต 20 ปีหลังเกษียณ

อย่างไรก็ตาม การคำนวณนี้ยังไม่ได้รวมการเกิดเหตุฉุกเฉินหรือความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้น หากในช่วง 38 ปีของการทำงานคุณยังไม่มีการออมหรือวางแผนการเงิน ก็อาจทำให้ไม่มีเงินพอใช้ในช่วง 20 ปีหลังเกษียณ

"เงิน 4 ล้านบาทพอไหมสำหรับชีวิตหลังเกษียณ?"

การจะตอบคำถามข้อนี้อาจต้องพิจารณาในหลายปัจจัย หลายแหล่งข้อมูลบอกว่า หากต้องการ "อยู่รอดพอประมาณ" โดยใช้เงินอยู่ราว 6,000-7,000 บาท/เดือน เป็นเวลา 20 ปีหลังเกษียณ ก็ต้องมีเงินออมอย่างน้อย 3-4 ล้านบาท แต่หากต้องการใช้เงินระดับกลางถึงสบาย หรือต้องการอยู่อาศัยในเมือง ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็อาจเพิ่มขึ้นไปมากกว่า 20,000-35,000 บาท/เดือน ทำให้ต้องเตรียมเงินในจำนวณที่สูงมากขึ้น หรือประมาณ 6-12 ล้านบาท

ปัญหาเงินเฟ้อที่ทำให้เงิน 4 ล้านไม่พอ

infographic แสดงว่า 4 ล้านพอไหม และการคาดคะเนอัตราเงินเพ้อ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Website Thairath Money

อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในไทยมีการเติบโตราว 3-4% ต่อปี ส่งผลให้เงินออมมูลค่าลดลงเรื่อยๆ เช่น ข้าวจานละ 40 บาทวันนี้ อีก 20 ปีอาจต้องจ่ายถึง 90 บาท ดังนั้นหากเราคิดคำนวณเงินเฟ้อ 3% ต่อปี จำนวนเงินที่ต้องเตรียมไว้จริงๆ จะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า ในขณะที่อัตราผลตอบแทนเงินฝากออมทรัพย์หรือเงินฝากประจำในไทยมีอัตราต่ำกว่าเงินเฟ้อแทบทุกปี แสดงให้เห็นว่า การวางแผนเก็บเงินเพียงอย่างเดียวโดยไม่ลงทุน อาจทำให้เงินที่มีอยู่โตไม่ทันค่าครองชีพ และมีโอกาสอย่างมากที่เงินนั้นจะหมดก่อนที่เราจะหมดอายุขัย

ดังนั้น สำหรับชีวิตหลังเกษียณหากคุณมีเงินเก็บจำนวน 4 ล้านบาท โดยไม่มีรายได้ทางอื่น เมื่อต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้ออาจทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้เพียง 10-15 ปี หรือเร็วกว่านั้น โดยเฉพาะหากคุณต้องมีค่าใช้จ่ายพิเศษอย่างค่ารักษาพยาบาลหรือสถานดูแลผู้สูงวัย

เคล็ดลับวางแผนการเงินสำหรับชีวิตหลังเกษียณ

1. เริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันนี้

ยิ่งเริ่มออมเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสร้างวินัยการเงินได้เร็ว และยังเป็นการปล่อยเวลาให้เงินทำงานแทนเราได้มาก เพราะเวลาถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของการลงทุน และเป็นสิ่งเดียวที่ซื้อกลับคืนไม่ได้

2. อย่าออมอย่างเดียว ต้องลงทุนด้วย

เงินเฟ้อจะค่อยๆ กัดกินมูลค่าของเงินไปทุกปี การลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเหนือเงินเฟ้อคือเครื่องมือสำคัญในการรักษาและเพิ่มมูลค่าของเงินออม

3. ทำความเข้าใจค่าใช้จ่ายหลังเกษียณของตัวเองให้ชัด

ลองคำนวณว่าหลังเกษียณเราต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไร เงินก้อนต้องมีเท่าไร ต้องออมกี่บาทต่อเดือนถึงจะไปถึงเป้าหมาย

4. กระจายความเสี่ยง

เลือกลงทุนบางส่วนเพื่อให้เงินโตทันเงินเฟ้อ เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ หุ้น กองทุนรวม หรือประกันแบบมีผลตอบแทน และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เตรียมตัวเข้าสู่วัยเกษียณ เพราะอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นสินทรัพย์ทางกายภาพที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ระยะยาว

ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษียณ

คู่รักชายหญิงสูงวัยดูแทปเล็ตด้วยกัน

การซื้อเพื่อปล่อยเช่า

การลงทุนในบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าเป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยม โดยผู้ลงทุนอาจรายได้จากค่าเช่าที่ประมาณ 6-10% ต่อปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและประเภทของทรัพย์สิน คือคอนโดที่อยู่ใจกลางเมืองก็อาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เนื่องจากมีความต้องการเช่าสูง แต่ก็แลกมาด้วยต้นทุนที่สูงตามไปด้วย การซื้อเพื่อปล่อยเช่าจึงต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น สภาพตลาดในแต่ละช่วง ความต้องการของผู้เช่า และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (REITs)

ทางเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากบริหารจัดการสินทรัพย์ด้วยตนเอง การลงทุนประเภทนี้ทำให้คุณสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ อย่างอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรมได้โดยไม่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก และอาจได้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-8% ต่อปี อีกทั้งยังมีความสะดวกสบาย เพราะไม่ต้องจัดการผู้เช่าเอง และมีสภาพคล่องสูงกว่าการถือครองอสังหาริมทรัพย์โดยตรง

เปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุน

หากคุณเป็นเจ้าของบ้านหรือมีสินทรัพย์อยู่ในครอบครอง การเปลี่ยนสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงิน เช่น การนำบ้านหลังเดิมไปขายและซื้อบ้านใหม่ที่มีขนาดเล็กลง ราคาถูกกว่า เพื่อเก็บส่วนต่างมาลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่อาจให้ผลตอบแทนสูงกว่า อย่างไรก็ตามการตัดสินใจลงทุนในลักษณะนี้ก็ต้องคำนึงถึงถึงความต้องการในชีวิตและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง แม้ว่าการลงทุนในอสังหาฯ จะมีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่มั่นคง แต่ก็ถือเป็นทรัพสินที่มีสภาพคล่องต่ำต้องใช้เวลาในการขาย และมีความเสี่ยงจากสภาพเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงในตลาด ดังนั้น ควรเลือกลงทุนในรูปแบบและสัดส่วนที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงิน รวมถึงกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่นเพื่อช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงในระยะยาว

เริ่มต้นวางแผนการเกษียณวันนี้

ชายหญิงสูงวัยยิ้ม

การเกษียณไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่เป็นเป้าหมายทางการเงินที่ต้องเริ่มตั้งแต่ยังไม่แก่ และเงินเก็บจำนวน 4 ล้านบาทที่หลายคนประมาณการ อาจเพียงพอแค่การใช้ชีวิตอย่างประหยัดมากในช่วง 15-20 ปีหลังเกษียณ และอยู่ในสภาวะที่ไม่เจอเงินเฟ้อรุนแรง หรือไม่ได้มีค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน แต่หากคุณต้องการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพรวมถึงมีความมั่นคงทางการเงิน ก็ควรวางแผนเงินเกษียณโดยคิดเงินเฟ้อเข้าไป และแน่นอนว่าจำเป็นต้องเตรียมเงินไว้มากกว่า 4 ล้าน ไม่ว่าจะเป็นจากการเก็บออมและการลงทุนในธุรกิจหรือสินทรัพย์ต่างๆ

เริ่มต้นวันนี้ ดีกว่ามานั่งเสียดายตอนใกล้เกษียณ เพราะการวางแผนที่ดีคือจุดเริ่มต้นและกุญแจสำคัญในการมีชีวิตวัยเกษียณที่มั่นคงและมีความสุข

Puntitha
Puntitha Silthumpituk ผู้เขียน

I am a SEO content writer with a deep interest in social issues, public trends, and their impact on various aspects of life, including real estate. With strong research and analytical skills, I create well-informed, engaging content that delivers valuable insights. By combining SEO with a passion for storytelling, I strive to communicate effectively and connect meaningfully with my audience.

สนใจลงข่าวสาร บน nestopa.com
ไลฟ์สไตล์ อสังหาริมทรัพย์
Nestopa