เผยแพร่ใน ข่าวสาร

อัปเดตข้อมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูล่าสุด สำหรับนักเดินทางและนักลงทุน ปี 2568

รถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นหัวข้อยอดนิยมในหมู่ผู้ใช้รถไฟฟ้าและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ เพราะเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ช่วยพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ลดปัญหารถติด และทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นกว่าเดิม แต่ความน่าสนใจของสายสีชมพูไม่ได้มีแค่เรื่องเดินทางเท่านั้นนะ! มันยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางอีกด้วย

รู้จักโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู

รถไฟฟ้าสายสีชมพู หรือ MRT Pink Line เป็นระบบขนส่งมวลชนแบบ Monorail (รถไฟฟ้ารางเดี่ยว) ที่เชื่อมต่อพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ กับโครงข่ายรถไฟฟ้าสายหลัก ครอบคลุมเส้นทางจากสถานีแครายผ่านแจ้งวัฒนะ รามอินทรา ไปจนถึงมีนบุรี ซึ่งช่วยให้ผู้คนเดินทางสะดวกขึ้น ลดเวลาการเดินทาง และเพิ่มทางเลือกในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยมีระยะทางรวมประมาณ 34.5 กิโลเมตร

โครงการนี้ดำเนินการโดย บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด และเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทในการพัฒนาระบบคมนาคมทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

  • เริ่มต้นก่อสร้าง: ปี พ.ศ. 2559

  • หยุดการก่อสร้างชั่วคราว: ปี พ.ศ. 2563 - 2564 (เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19)

  • เปิดให้ทดลองใช้: 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

  • เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ: 7 มกราคม พ.ศ. 2567

โครงการนี้มีความคืบหน้าต่อเนื่อง และผลักดันการพัฒนาเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก


เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีสถานีอะไรบ้าง

รถไฟฟ้าสายสีชมพู เส้นทาง ครอบคลุมทั้ง 30 + 2 สถานี โดยมีจุดเริ่มต้นที่ แคราย (เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง) และสิ้นสุดที่ มีนบุรี (เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม) ตั้งอยู่บนเส้นทางสำคัญของกรุงเทพมหานครด้านเหนือและจังหวัดนนทบุรี จุดเชื่อมต่อที่สำคัญประกอบไปด้วย

  1. PK01 ศูนย์ราชการนนทบุรี (Nonthaburi Civic Center)
    2. PK02 แคราย (Khae Rai)
    3. PK03 สนามบินน้ำ (Sanambin Nam)
    4. PK04 สามัคคี (Samakkhi)
    5. PK05 กรมชลประทาน (Royal Irrigation Department)
    6. PK06 แยกปากเกร็ด (Yaek Pak Kret)
    7. PK07 เลี่ยงเมืองปากเกร็ด (Pak Kret Bypass)
    8. PK08 แจ้งวัฒนะปากเกร็ด 28 (Chaeng Watthana-Pak Kret 28)
    9. PK09 ศรีรัช (Si Rat)
    10. PK10 เมืองทองธานี (Muang Thong Thani)
        + 1. MT01 อิมแพ็ค เมืองทองธานี (Impact Muang Thong Thani)
        + 2. MT02 ทะเลสาบเมืองทองธานี (Lake Muang Thog Thani)
    11. PK11 แจ้งวัฒนะ 14 (Chaeng Watthana 14)
    12. PK12 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (Government Complex)
    13. PK13 โทรคมนาคมแห่งชาติ (National Telecom)
    14. PK14 หลักสี่ (Lak Si)
    15. PK15 ราชภัฏพระนคร (Rajabhat Phranakhon)
    16. PK16 วัดพระศรีมหาธาตุ (Wat Phra Sri Mahathat)
    17. PK17 รามอินทรา 3 (Ram Inthra 3)
    18. PK18 ลาดปลาเค้า (Lat Pla Khao)
    19. PK19 รามอินทรา กม.4 (Ram Inthra Kor Mor 4)
    20. PK20 มัยลาภ (Maiyalap)
    21. PK21 วัชรพล (Vacharaphol)
    22. PK22 รามอินทรา 6 (Ram Inthra 6)                                                                                                                                                                                                                                                 
    23. PK23 คู้บอน (Khu Bon)
    24. PK24 รามอินทรา 9 (Ram Inthra 9)
    25. PK25 วงแหวนรามอินทรา (Outer Ring Road-Ram Inthra)
    26. PK26 นพรัตน์ (Nopparat)
    27. PK27 บางชัน (Bang Chan)
    28. PK28 เศรษฐบุตรบำเพ็ญ (Setthabutbamphen)
    29. PK29 ตลาดมีนบุรี (Min Buri Market)
    30. PK30 มีนบุรี (Min Buri)

สถานีที่น่าสนใจและจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูกับรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ

  • การเชื่อมต่อกับ MRT สายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายได้ดีในการเข้าสู่ตัวเมือง

  • การเชื่อมต่อกับ สายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ที่สถานีหลักสี่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญ เชื่อมต่อไปยังสถานีอื่นๆ ได้อย่างสะดวก

  • การเชื่อมต่อกับ BTS สายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ซึ่งเป็นสถานีที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง

  • การเชื่อมต่อกับ MRT สายสีส้ม (กำลังก่อสร้าง) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ที่สถานีมีนบุรี ซึ่งเชื่อมต่อพื้นที่ฝั่งตะวันออกเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

  • การเชื่อมต่อกับ สายสีน้ำตาล (ในอนาคต) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น และมีผลต่อการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ในหลายทำเลอีกด้วย

  • การเชื่อมต่อกับ สายสีเทา (ในอนาคต) ที่สถานีวัชรพล ซึ่งช่วยลดปัญหาการจราจรบนถนนรามอินทรา ลาดพร้าว และสุขุมวิท

รถไฟฟ้าสายสีชมพู เปิด - ปิดกี่โมง

รถไฟฟ้าสายสีชมพู (MRT Pink Line) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. ความถี่ในการเดินรถ วันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลาเร่งด่วน (06.30-09.30 น. และ 17.00-20.00 น.) ขบวนรถออกทุก 5 นาที นอกช่วงเร่งด่วนและวันหยุด ขบวนรถออกทุก 10 นาที

อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู

รถไฟฟ้าสายสีชมพู มีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15 บาท และสูงสุดไม่เกิน 45 บาทต่อเที่ยว โดยระบบจะคำนวณค่าโดยสารตามระยะทางจริง ทำให้ผู้โดยสารจ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสีชมพูราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่าในการเดินทางประจำวัน นอกจากนี้ยังมี โครงการ 20 บาทตลอดสาย ที่ช่วยลดภาระค่าเดินทาง ผู้โดยสารสามารถลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2568 และเริ่มใช้สิทธิ์จริงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 โดยรองรับทั้ง Rabbit Card (ที่มีฟังก์ชัน ABT) และ บัตร EMV Contactless เช่น บัตรเครดิต เดบิต หรือบัตรเติมเงินที่มีสัญลักษณ์ Contactless

โอกาสในด้านอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน

เส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดโอกาสให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะพื้นที่รอบ ๆ สถานีได้รับความสนใจจากนักพัฒนาและนักลงทุนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยราคาจับต้องได้ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการบ้านหลังแรก หรือคอนโดหรูที่เหมาะกับครอบครัวเมืองที่มองหาความสะดวกสบายในการเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว สรุปได้ดังนี้

  • โครงการใหม่เกิดขึ้น: การพัฒนาอสังหาฯ ตามแนวรถไฟฟ้ามักจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น ศูนย์การค้า ร้านอาหาร และออฟฟิศขนาดเล็กที่เข้ามาเสริมศักยภาพของทำเล

  • ที่ดินรอบสถานีมูลค่าสูงขึ้น: ทำเลดี ๆ ใกล้รถไฟฟ้ามักมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่สามารถพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่หรือสร้างจุดเชื่อมต่อระหว่างชุมชน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการลงทุนระยะยาวและมั่นคง

  • โอกาสสำหรับนักลงทุน: ไม่ว่าจะเป็นการซื้อคอนโดปล่อยเช่า ซื้อที่ดินในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง หรือการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เช่น อาคารสำนักงานหรือร้านค้า รถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดโอกาสให้คุณได้สร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต อีกทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ธุรกิจของคุณมีความทันสมัยและเข้าถึงง่าย

อัพเดทส่วนต่อขยาย สถานีศรีรัช - เมืองทองธานี เดือนกุมภาพันธ์ 2568

ส่วนต่อขยายจากสถานีศรีรัชไปยังเมืองทองธานี ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบคมนาคม ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง และช่วยลดปัญหาจราจรได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย

ส่วนต่อขยาย สถานีศรีรัช - เมืองทองธานี เดือนกุมภาพันธ์ 2568

  • ความก้าวหน้างานโยธา อยู่ที่ 91.03%

  • ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า อยู่ที่ 99.61%

  • ความก้าวหน้าโดยรวม อยู่ที่ 99.22%

ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงสถานีศรีรัช - เมืองทองธานี จะเปิดให้ทดลองใช้บริการฟรี ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา 06.00 น. จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2568 และเริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลา 06.00 - 24.00 น.

ระบบคมนาคมเปลี่ยนเมือง

การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการคมนาคมของกรุงเทพฯ ไม่เพียงช่วยให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็วขึ้น แต่ยังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เช่น ลดมลพิษจากรถยนต์ และกระตุ้นการพัฒนาพื้นที่ตามแนวเส้นทาง

สำหรับผู้ใช้ชีวิตประจำวัน รถไฟฟ้าสายนี้ทำให้เดินทางง่ายขึ้น เชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นได้สะดวก ส่วนในมุมการลงทุน แนวเส้นทางเต็มไปด้วยโอกาส ทั้งด้านที่อยู่อาศัย ร้านค้า และโครงการใหม่ ๆ หากวางแผนให้ดี การลงทุนในทำเลรอบสถานีสามารถกลายเป็นก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จระยะยาวทั้งด้านผลตอบแทนและความมั่นคงในอนาคต

ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ปี 2563 - 2566)

วิเคราะห์ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู

การพัฒนารถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย - มีนบุรี) ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งราคาที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2563 - 2566 ตามข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (REIC)

  1. ย่านติวานนท์

    • ราคาที่ดิน: เพิ่มขึ้นจาก 130,000 บาท/ ตารางวา (ปี 2563) เป็น 190,000 บาท/ ตารางวา (ปี 2566)

    • อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี: 13.5%

    • ปัจจัยสนับสนุน: ได้รับอานิสงส์จากรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีชมพู ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการพัฒนาราคาที่ดินสูงที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

  2. ถนนรามอินทรา (ใกล้ทางเข้าเมืองทองธานี)

    • ราคาที่ดิน: เพิ่มขึ้นจาก 310,000 บาท/ ตารางวา (ปี 2563) เป็น 370,000 บาท/ ตารางวา (ปี 2566)

    • อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี: 6.1%

    • แนวโน้มล่าสุด: ในปี 2565 - 2566 อัตราการเพิ่มขึ้นลดลงเหลือเพียง 5.7% เนื่องจากการพัฒนาพื้นที่ในอดีตมีความเข้มข้นมากแล้ว

  3. ถนนรามอินทรา กม.3

    • ราคาที่ดิน: เพิ่มขึ้นจาก 200,000 บาท/ ตารางวา (ปี 2563) เป็น 260,000 บาท/ ตารางวา (ปี 2566)

    • อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี: 9.1%

    • ข้อสังเกต: แม้ว่าพื้นที่นี้จะมีการพัฒนาจำกัด แต่ยังคงมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะบริเวณซอยต่าง ๆ ที่เชื่อมกับถนนหลัก

  4. ถนนรามอินทรา ใกล้แยกหทัยราษฎร์

    • ราคาที่ดิน: เพิ่มขึ้นจาก 41,000 บาท/ตารางวา (ปี 2563) เป็น 49,000 บาท/ ตารางวา (ปี 2566)

    • อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี: 6.1%

    • ข้อเปรียบเทียบ: แม้ว่าราคาที่ดินจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าพื้นที่ที่ไม่มีรถไฟฟ้า แต่ยังต่ำกว่าทำเลใจกลางเมือง เช่น สายสีเขียวและสีน้ำเงิน ซึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 6 - 9% ต่อปี

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดิน

  1. การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาและขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน อย่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเครือข่ายขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางและลดเวลาในการเดินทางในเขตเมืองใหญ่ ทำให้พื้นที่โดยรอบสถานีได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างมากขึ้น ทั้งในด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยังดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติที่มองหาพื้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในระยะยาวอีกด้วย

  2. ความต้องการที่อยู่อาศัย การขยายตัวของเมืองและความนิยมของพื้นที่แนวรถไฟฟ้า เป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นความต้องการที่อยู่อาศัย เช่น บ้านและคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานที่มองหาทำเลที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการเดินทางสะดวกและลดเวลาในการเดินทาง ส่งผลให้ราคาที่ดินบริเวณแนวรถไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมักมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และโรงเรียน ทำให้พื้นที่เหล่านี้ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นจากผู้ซื้อ

  3. การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ จากข้อมูลของ REIC พบว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความได้เปรียบเชิงทำเล เช่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้าหรือพื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจ ส่งผลให้ผู้พัฒนาโครงการต่างแข่งขันกันเพื่อซื้อที่ดินในทำเลศักยภาพสูง ด้วยความต้องการจำนวนมาก ราคาที่ดินในพื้นที่เหล่านี้จึงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การแข่งขันดังกล่าวยังนำไปสู่การพัฒนาโครงการที่มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในแง่ของราคาและคุณภาพ ซึ่งส่งผลต่อมูลค่าที่ดินในระยะยาวอีกด้วย

พื้นที่ที่น่าจับตามองสำหรับการลงทุน

การเปิดใช้งานรถไฟฟ้าสายสีชมพูอย่างเต็มรูปแบบในปี 2567 รวมถึงส่วนต่อขยายไปยังเมืองทองธานี คาดว่าจะส่งผลให้ราคาที่ดินในพื้นที่ตามแนวเส้นทางมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพสูง เช่น แจ้งวัฒนะ รามอินทรา ติวานนท์และมีนบุรี ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาใหม่ ๆ ในอนาคต

  • แจ้งวัฒนะ - เป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจและการศึกษา มีสถานที่สำคัญ เช่น ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, อิมแพ็ค เมืองทองธานี และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ คาดว่าราคาที่ดินจะเพิ่มขึ้นอีก 5-10% ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า

  • รามอินทรา - มีโครงการที่อยู่อาศัยและคอมมูนิตี้มอลล์เกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งยังใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว (วัดพระศรีมหาธาตุ) ทำให้เหมาะแก่การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์

  • ติวานนท์ - ทำเลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยความใกล้ชิดกับศูนย์ราชการและเส้นทางคมนาคมหลัก มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงสูง

  • มีนบุรี - ศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคต ทำให้เหมาะแก่การลงทุนด้านที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม

แนะนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู

1. NUE REN Chaengwattana (นิว เรน แจ้งวัฒนะ)

ทำเลที่ตั้ง: ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีแจ้งวัฒนะ 14 (เพียง 600 เมตร) และห้างโลตัส แจ้งวัฒนะ
ประเภทโครงการ: คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร รวม 467 ยูนิต
ผู้พัฒนาโครงการ: Noble Development
จุดเด่นของโครงการ

  • เดินทางสะดวก - ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วยให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกขึ้น

  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว - คอนโด Low Rise ให้ความรู้สึกเงียบสงบ ไม่แออัด

  • สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน - พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ และโซนพักผ่อน

เหมาะสำหรับ คนทำงานย่านแจ้งวัฒนะและนนทบุรี, ผู้ที่ต้องการคอนโดในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง

ข้อมูลเพิ่มเติม: NUE REN Chaengwattana

2. Plum Condo Samakkhi (พลัม คอนโด แจ้งวัฒนะ ดอนเมือง)

ทำเลที่ตั้ง: ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีสามัคคี
ประเภทโครงการ: คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร
ผู้พัฒนาโครงการ: พฤกษา เรียลเอสเตท
จุดเด่นของโครงการ

  • ราคาจับต้องได้ - เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอนโดในราคาที่ไม่สูงเกินไป

  • เดินทางสะดวก - ตั้งอยู่ใกล้สถานีสามัคคี สามารถเดินทางไปยังแจ้งวัฒนะและหลักสี่ได้ง่าย

  • เหมาะสำหรับนักศึกษาและคนทำงาน - ใกล้สถานศึกษาและสำนักงานหลายแห่ง

เหมาะสำหรับ คนที่ต้องการคอนโดราคาไม่แพง แต่มีศักยภาพในการเติบโต, นักศึกษาและคนทำงานที่ต้องการที่พักใกล้มหาวิทยาลัยและสำนักงาน

ข้อมูลเพิ่มเติม: Plum Condo Samakkhi

3. Supalai Loft @สถานีแคราย (ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย)

ทำเลที่ตั้ง: ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีแคราย
ประเภทโครงการ: คอนโดมิเนียม High Rise สูง 33 ชั้น 1 อาคาร
ผู้พัฒนาโครงการ: ศุภาลัย
จุดเด่นของโครงการ

  • วิวเมืองสวยงาม - ด้วยความสูงถึง 33 ชั้น ทำให้สามารถมองเห็นวิวรอบเมืองได้

  • เดินทางสะดวก - ใกล้แยกแคราย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของนนทบุรี

  • พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง - ออกแบบมาให้ตอบโจทย์คนที่ต้องการพื้นที่มากขึ้น

เหมาะสำหรับ คนทำงานในย่านนนทบุรีและแจ้งวัฒนะ, ผู้ที่ต้องการคอนโด High Rise พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ข้อมูลเพิ่มเติม: Supalai Loft @สถานีแคราย

4. Atmoz Flow Minburi (แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี)

ทำเลที่ตั้ง: ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีตลาดมีนบุรี
ประเภทโครงการ: คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร
ผู้พัฒนาโครงการ: AssetWise
จุดเด่นของโครงการ

  • เหมาะสำหรับทุกวัย - ออกแบบพื้นที่ให้เข้ากับทุก Gen ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน และครอบครัว

  • ใกล้ตลาดมีนบุรีและแหล่งชุมชน - สามารถเข้าถึงร้านค้า ตลาด และสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่าย

  • สิ่งแวดล้อมดี - อยู่ใกล้พื้นที่สีเขียว มีสวนและพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่

เหมาะสำหรับ คนที่ต้องการอยู่อาศัยในย่านมีนบุรีที่กำลังเติบโต, ผู้ที่ต้องการคอนโดที่มีบรรยากาศเงียบสงบและใกล้ธรรมชาติ

ข้อมูลเพิ่มเติม: Atmoz Flow Minburi

5. Setthasiri Serithai (เศรษฐสิริ เสรีไทย)

ทำเลที่ตั้ง: ใกล้แฟชั่นไอส์แลนด์ และทางด่วนรามอินทรา
ประเภทโครงการ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
ผู้พัฒนาโครงการ: แสนสิริ
จุดเด่นของโครงการ

  • เหมาะสำหรับครอบครัว - มีพื้นที่กว้างขวาง รองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว

  • ทำเลดี - ใกล้แฟชั่นไอส์แลนด์ ห้างสรรพสินค้า และสถานศึกษาชั้นนำ

  • บรรยากาศเงียบสงบ - เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านในทำเลที่สงบแต่เดินทางสะดวก

เหมาะสำหรับ ครอบครัวที่ต้องการบ้านเดี่ยวในทำเลที่มีศักยภาพ, ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งและสิ่งอำนวยความสะดวก

ข้อมูลเพิ่มเติม: Setthasiri Serithai

ค้นหาคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ได้ที่ Nestopa.com

คำถามที่พบบ่อย

ไปแฟชั่นไอส์แลนด์ด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพู สามารถลง สถานีวงแหวนรามอินทรา ทางออก 2 ได้เลย สถานีจะอยู่หน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์

ปัจจุบัน ไปเมืองทองธานีด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพู สามารถลง สถานี PK25 ศรีรัช ทางออก 1 ได้เลย และใช้บริการรถโดยสารสาธารณะไปยังเมืองทองธานีอีกที เช่น วินมอเตอร์ไซค์ ประมาณ 30 - 40 บาท, รถตู้ 15 บาท และรถสองแถว 12 บาท กลางปี 68 เป็นต้นไป มีส่วนต่อขยายสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี สามารถลง สถานี MT01 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้เลย

PK06 – แยกปากเกร็ด (Yaek Pak Kret) รูปแบบบริการ: จอดรถรายเดือน เวลาเปิดให้บริการ: 24 ชั่วโมง ค่าบริการ: 1,500 บาท/เดือน PK08 – แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 (Chaeng Watthana–Pak Kret 28) - ตลาดสดดำเนินเอง เวลาเปิดบริการ: 24 ชั่วโมง ค่าบริการ: 50 บาท/ชั่วโมง, รายวัน 300 บาท - ห้างเดอะวันพาร์ค เวลาเปิด: จันทร์–ศุกร์ 11.00–21.00 น., เสาร์–อาทิตย์ 10.00–22.00 น. ค่าบริการ: ชั่วโมงแรกฟรี, ชั่วโมงต่อไป 30 บาท PK10 – เมืองทองธานี (Muang Thong Thani) บริการ: จอดรถรายวันและรายเดือน เวลาเปิด: 24 ชั่วโมง อัตราค่าบริการ: รายวัน 80 บาท, รายเดือน 1,700 บาท PK17 – รามอินทรา 3 (Ram Inthra 3) - เซนทรัลรามอินทรา เวลาเปิด: จันทร์–ศุกร์ 10.30–21.00 น., เสาร์–อาทิตย์ 10.00–21.00 น. ค่าบริการ: จอดฟรี 3 ชั่วโมง, ชั่วโมงที่ 4 ขึ้นไป 30 บาท PK24 – วงแหวนรามอินทรา (Outer Ring Rd.–Ram Inthra) - เพลซซ่า ไอส์แลนด์ เวลาเปิดบริการ: 10.00–22.00 น. หลัง 22.00 น. ค่าจอด 40 บาท/ชั่วโมง PK29 – ตลาดมีนบุรี (Min Buri Market) - ตลาดใหม่มีนบุรี (ทางออก 2) เปิด 24 ชม. 2 ชม.แรก 20 บาท, ชั่วโมงต่อไป 10 บาท - ตลาดเก่ามีนบุรี (ทางออก 3) เปิด 24 ชม. 1–2 ชม. 10 บาท, 3–4 ชม. 20 บาท, ชั่วโมงต่อไป 30 บาท - ลานจอดรถตลาดนัด (ทางออก 4) เปิด 24 ชม., เหมาจอดรายเดือน 1,000 บาท - มาร์เก็ตเพลซ มีนบุรี เวลาเปิด: 05.00–21.00 น. ค่าจอด: ชั่วโมงแรกฟรี, ชั่วโมงต่อไป 10 บาท, รายเดือน 1,000 บาท PK30 – มีนบุรี (Min Buri) - อาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) เวลาเปิด: 05.00–02.00 น. ค่าบริการ: 5 บาท/1 ชม., ชั่วโมงต่อไป 10 บาท, รายเดือน 1,000 บาท

ตู้โทรศัพท์สาธารณะสามารถปรับระดับความสูงได้ ตู้โทรศัพท์สาธารณะสำหรับผู้ใช้รถเข็น ATM ที่ปรับระดับความสูงได้ ทางลาดสำหรับรถเข็นและผู้สูงอายุ ห้องน้ำสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ทางเดินผิวสัมผัสสำหรับผู้พิการทางสายตา ลิฟต์สำหรับผู้พิการ มีแผ่นพื้นนำทางสำหรับผู้พิการทางสายตาและมีปุ่มสวิตซ์พร้อมอักษรเบรลล์ บันไดขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้า บริเวณราวจับมีอักษรเบรลล์สำหรับผู้พิการทางสายตา ช่องทาง - ออกพื้นที่สถานี มีทางกว้าง 1 ช่องเพื่อผู้พิการหรือรถเข็นเด็ก ที่นั่งในรถไฟฟ้า มีการแบ่งโซนสีเหลืองสำหรับ คนชรา สตรีมีครรภ์ และผู้พิการ แหล่งอ้างอิง: การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC), Bangkok Post, The Nation Thailand

Titirat
Titirat Prakobkhaothong ผู้เขียน
Content Creator and SEO Specialist

I specialize in creating compelling real estate content, combining industry expertise with a passion for storytelling. Skilled in crafting SEO-optimized, engaging materials, I focus on connecting with audiences and delivering valuable insights that inform and inspire.

สนใจลงข่าวสาร บน nestopa.com
รีวิวโครงการ รถไฟฟ้า
Nestopa