บ้านที่สร้างมานานหลายปี มักมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยหนึ่งในปัญหายอดฮิตที่แทบทุกบ้านต้องเจอ นั่นก็คือ “ผนังร้าว” ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ เลยทีเดียว แถมยังส่งผลกระทบอื่น ๆ ตามมาอีกมากมายด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้างบ้าน การรั่วซึมของน้ำ หรือการลดทอนความสวยงามของตัวบ้าน โดยบทความนี้ เนสโทปา จะพาไปเจาะลึกถึงปัญหาผนังร้าว พร้อมวิธีการรับมือต่าง ๆ กันค่ะ

ผนังร้าวเกิดจากสาเหตุอะไร
เรื่องของผนังร้าวนั้นถือว่ามีหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน และส่งผลให้เกิดอันตรายที่แตกต่างกันไปด้วย เริ่มตั้งแต่สาเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงปัญหาใหญ่ ที่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยแก้ไข โดยสาเหตุต่าง ๆ ของปัญหาผนังร้าวมีดังต่อไปนี้
1. ดินทรุดตัวเป็นเหตุ เมื่อดินเกิดการทรุดตัว ก็อาจทำให้ใต้บ้านมีโพรงขึ้นได้ ส่งผลให้คานไม่สามารถรับน้ำหนักบ้านได้อีกต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเริ่มต้นจากรอยร้าวเล็ก ๆ บริเวณผนัง ก่อนจะขยายวงกว้าง และมีรอยแตกร้าวที่เพิ่มขึ้น
2. การคำนวณที่ผิดพลาด บางครั้งปัญหาผนังร้าวอาจมีสาเหตุมาตั้งแต่จุดเริ่มต้น นั่นคือเรื่องของการคำนวณที่ผิดพลาดในการสร้างบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสาเข็ม ฐานราก หรือคาน ทำให้เกิดความตึงจนแตกร้าวได้ ซึ่งปัญหานี้ต้องมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด
3. รากไม้ เรื่องของธรรมชาติบางครั้งก็เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ โดยเฉพาะรากไม้ที่มักจะชอนไชเข้าสู่ภายใต้บ้าน จนส่งผลกระทบไปถึงโครงสร้างบ้าน หรือเกิดการแย่งน้ำในดินได้
4. อุณหภูมิร้อนเกินไป ในขั้นตอนการก่อสร้างบ้านต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบไม่แพ้การทำสิ่งอื่น ๆ บางครั้งปัญหาผนังร้าวอาจเกิดในระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง เช่น การผสมปูนที่ผิดสัดส่วน มีการผสมน้ำน้อยเกินไป ก็จะส่งผลให้เมื่อปูนแห้ง ก็จะเกิดการกักเก็บความร้อนไว้ภายใน ก่อนจะลุกลามกลายเป็นรอยแตกร้าวในที่สุด
5. ระบบน้ำมีปัญหา บางครั้งปัญหาผนังร้าวอาจมีสาเหตุจากเรื่องระบบน้ำภายในบ้านได้เหมือนกัน เช่น ท่อน้ำภายในบ้านตัน รั่ว หรือซึมเข้าสู่กำแพง ส่งผลต่อโครงสร้างภายใน ทำให้มีความเปราะบางมากขึ้นหรือบวมขึ้น จนแตกร้าวในที่สุด

ผนังร้าวมีแบบไหนบ้าง
หากลองสังเกตดี ๆ ปัญหาผนังร้าวนั้นมีหลายแบบ ซึ่งเกิดจากสาเหตุและมีการส่งผลต่อที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าผนังร้าวแต่ละแบบจะส่งผลอะไรบ้าง รวมถึงมีวิธีแก้ไขอย่างไร
1. ผนังร้าวแตกลายงา ถือเป็นประเภทของผนังร้าวยอดฮิตที่สามารถพบเจอได้ง่ายและมากที่สุด โดยการแตกร้าวจะมีลักษณะเป็นเส้นเล็ก ๆ แตกลายงา เกิดจากสาเหตุของการผสมปูนที่ผิดสัดส่วน หรือไม่ได้มีการบ่มน้ำก่อนฉาบปูน โดยปัญหาของผนังร้าวประเภทนี้ถือว่าไม่รุนแรง ไม่มีอันตราย และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้าน แต่อาจสร้างความหงุดหงิดใจให้แก่คนที่ชอบให้บ้านสวยงามอยู่ตลอดเวลา เพราะรอยร้าวนั้นค่อนข้างเด่นชัด จนทำผนังไม่เรียบสวยเหมือนตอนสร้างบ้านใหม่ๆ รวมไปถึงปัญหาเล็กน้อยอื่นๆ เช่น น้ำซึม ผนังบวน เกิดการสึกกร่อน หรือมีเชื้อราขึ้นตามผนัง
วิธีแก้ไข: สามารจัดการซ่อมแซมได้ด้วยตนเองแบบง่าย ๆ เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดพื้นผิว จากนั้นรอให้แห้ง ก่อนจะนำอะครีลิคมาอุดรอยร้าว แล้วทิ้งไว้อีก 2 ชั่วโมง ตามด้วยการขัดด้วยกระดาษทราย ปิดท้ายด้วยการทาสีทับ

2. ผนังร้าวเป็นแนวทแยง เพิ่มความรุนแรงขึ้นมาอีกหนึ่งเลเวล นั่นคือปัญหาผนังร้าวแบบแนวทแยง ที่ต้องมีการแก้ไขโดยเร่งด่วน เพราะสาเหตุอาจเกิดจากรากฐานของบ้านอย่างเสาที่มีการทรุดตัว การต่อเติมบ้านแบบผิดวิธี หรือเสาเข็มมีการเคลื่อนตัว ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้จะส่งผลให้คานของบ้านรับน้ำหนักได้ไม่เหมือนเดิม
วิธีแก้ไข: ปัญหานี้อาจไม่สามารถแก้ไขเองด้วย จึงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าของบ้านควรจดบันทึกความกว้างและความยาวของรอยร้าวที่เกิดขึ้น พร้อมสังเกตว่ารอยร้าวในจุดอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมาอีกหรือไม่ ก่อนจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่อไป

3. ผนังร้าวบริเวณขอบมุมวงกบ ผนังร้าวประเภทนี้มักเกิดขึ้นในบริเวณที่อยู่ใกล้กับขอบหน้าต่างหรือขอบประตูบ้าน ซึ่งรอยร้าวที่เกิดขึ้น สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ ได้แก่
- รอยที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน รอยร้าวประเภทนี้ถือว่าไม่รุนแรงมากนัก มีสาเหตุจากอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำกว่าปกติ ทำให้โครงสร้างภายในเกิดการหดหรือขยายตัว จนกลายเป็นรอยร้าว
วิธีแก้ไข: เนื่องจากเป็นรอยร้าวที่ไม่รุนแรง จึงสามารถแก้ไขเองได้ด้วยการใช้ยาแนวรอยต่อมาทำการอุด
- รอยที่ไปในทิศทางเดียวกัน รอยร้าวแบบนี้ถือเป็นปัญหาที่รุนแรงเลยทีเดียว เกิดขึ้นเป็นรอยแนวเฉียง สาเหตุจากปัญหาโครงสร้างภายในของบ้าน
วิธีแก้ไข: ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าดูแลด้วยการรื้อประตูและหน้าต่าง เพื่อทำการติดตั้งใหม่ให้ถูกต้องตามโครงสร้าง

4. ผนังร้าวตรงหัวเสา รอยร้าวแบบนี้มักเกิดตรงหัวเสาและอาจเป็นแนวยาวไปจนถึงคาน ซึ่งอาจเกิดจากน้ำหนักที่มากจนทำให้คานรับไม่ไหว จนส่งผลให้คานและเสาแยกตัวออกจากกัน และมักเกิดขึ้นที่ปลายทั้ง 2 ด้านของคาน โดยรอยร้าวแบบนี้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่และมีความอันตรายมาก
วิธีแก้ไข: เนื่องจากรอยร้าวนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ จึงต้องอาศัยการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และต้องรีบทำการปรึกษาโดยเร่งด่วน เพราะในระยะยาวอาจส่งผลให้อาคารถล่มลงมาได้

5. ผนังร้าวกลางคาน รอยร้าวประเภทนี้เกิดจากปัญหาบริเวณโครงสร้างคาน ที่รับน้ำหนักไม่ไหว หรืออาจเกิดจากการคำนวณที่ผิดพลาดได้ด้วยเช่นกัน โดยรูปแบบของรอยร้าวจะเป็นแนวดิ่งจากคานลงมาสู่กลางผนัง ซึ่งจุดที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดจะเป็นชั้นล่างของบ้าน หรือชั้นดาดฟ้าในกรณีที่บ้านหลังนั้นมีการติดตั้งแทงค์น้ำ
วิธีแก้ไข: ผนังร้าวประเภทนี้ก็ถือว่ามีความอันตรายเช่นกัน เบื้องต้นจึงควรย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมากออกมาก่อน จากนั้นให้รีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วนต่อไป

6. รอยร้าวบนเพดาน รอยร้าวแบบนี้สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากรอยร้าวที่เข้าหาเสาทั้ง 4 จะมีเพดานเป็นเหล็กเสริม ส่วนรอยร้าวที่มีลักษณะตรงจะมีเหล็กเสริมเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งเกิดจากสาเหตุของเพดานที่ไม่มีคานรองรับน้ำหนัก
วิธีแก้ไข: ควรรีบน้ำสิ่งของที่มีน้ำหนักมากออกจากบริเวณนั้น ก่อนจะรีบดำเนินการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่อไป

7. รอยร้าวที่พื้น ปิดท้ายกันที่รอยร้าวบนพื้น ซึ่งมีเกิดขึ้นได้ 2 แบบ และมีลักษณะที่ต่างกันตามสาเหตุของรอยนั้น ได้แก่ รอยร้าวแบบเข้าหาเสาทั้ง 4 เกิดจากการวางของที่มีน้ำหนักมาก ทำให้พื้นแอ่นตัวจนเกิดรอยร้าว ส่วนอีกหนึ่งแบบคือรอยร้าวแบบเส้นตรง มักเกิดจากการแปรผันของสภาพอากาศ ทำให้คอนกรีตเกิดการยึดและหดตัว
 เลือกบ้านดี ๆ น่าอยู่ ได้ที่ Nestopa.com
เลือกบ้านดี ๆ น่าอยู่ ได้ที่ Nestopa.com
สรุปปัญหาผนังร้าวที่ไม่ควรมองข้าม
การป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น อันดับแรกเลยคือต้องเลือกปรึกษาช่างที่มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี ผสานกับการทำงานที่ละเอียดรอบคอบ ส่วนตัวเจ้าของบ้านก็ควรหมั่นสังเกตรอยร้าวต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปลูกต้นไม้เยอะจนเกินไป เพื่อป้องกันการดูดน้ำออกจากดิน แต่ถ้าสุดท้ายแล้วยังมีปัญหาผนังร้าวเกิดขึ้นอยู่ ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยด่วนและรีบแก้ไขก่อนจะเกิดอันตราย เพื่อความสุขในการอยู่อาศัยที่บ้านอันแสนอบอุ่นของคุณ
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง: ต้นไม้ให้ร่มเงา ไม่ทำลายโครงสร้างบ้าน (2025)
 
                                 
                 
                     
                     
                     
                                    