สามย่าน ย่านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ สวรรค์ของเหล่านักชิม
'สามย่าน' กำลังเป็นกระแสอย่างมากเนื่องจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติสายนักชิมต่างก็ต้องการจะมาลิ้มลองสตรีทฟู้ดใจกลางกรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยซึ่งขึ้นชื่อไปทั่วโลกว่ามี “ร้านอร่อย” มากมายหลายสัญชาติ จนกล่าวได้ว่าย่านนี้คือแลนด์มาร์คสตรีทฟู้ดของเมืองไทย แต่นอกจากในเรื่องของกินที่ล้ำเลิศแล้วยังมีความน่าสนใจในเรื่องของการเป็นทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการทางด้านการอยู่อาศัยใกล้สถานศึกษาชื่อดังเพิ่มขึ้นในจำนวนมาก ด้วยเพราะเหตุนี้เราจะพาไปทำความรู้จักย่านนี้ให้มากขึ้น
Soft Power สตรีทฟู้ดสไตล์ไทยต้องที่สามย่าน - บรรทัดทอง
“สตรีทฟู้ด” ของประเทศไทยถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สร้างมูลค่าการตลาดนับแสนล้านบาทต่อปี ซึ่งสตรีทฟู้ดไทยได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ได้มาเปิดประสบการณ์ลิ้มลองรสชาติอาหารที่เหนือขั้นการจินตนาการ ความอร่อยที่หาได้เฉพาะในที่สามย่าน - บรรทัดทอง ย่านใจกลางกรุงเทพฯ แห่งนี้ ซึ่งที่นี่มีทั้งร้านที่อร่อยระดับตำนาน อร่อยระดับมิชลินไกด์ หรืออะไรตามเทรนด์กระแสร้านดัง จึงเป็นย่านที่นักชิมตัวยงไม่ควรพลาด
ว่ากันด้วย “สตรีทฟู้ด” หรืออาหารริมทาง ถ้าเป็นเมื่อก่อนผู้คนก็อาจจะมองว่าไม่ถูกสุขอนามัย มีทั้งรถเข็น แผงลอยที่ตั้งระเกะระกะริมฟุตบาทกีดขวางการสัญจรของผู้คน สร้างความไม่สะอาดตาและทำให้ภาพลักษณ์ของเมืองดูแย่ ทำลายทัศนียภาพสวย ๆ ไปหมด
แต่นั่นเป็นเพียงแค่ภาพจำในอดีต เพราะปัจจุบันสตรีทฟู้ดของไทยกำลังได้รับความนิยมในระดับสากลโลก และจัดเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สร้างมูลค่าทางการตลาดนับแสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเยี่ยมเยือนเมืองไทยและลิ้มลองอาหารที่หลากหลายและมีความเลิศรส จนกรุงเทพฯ ได้ชื่อว่าเป็น “มหานครแห่งสตรีทฟู้ด” หรือ “เมืองหลวงแห่งร้านอาหารริมทาง”
ต้นกำเนิดวัฒนธรรมอาหาร Street Food ของเมืองไทย
เมื่อก่อนในสมัยอดีตชาวไทยสยามนิยมปลูกบ้านแบบมีอาณาเขตบริเวณล้อมรอบ ตั้งเรือนอยู่ริมคลองแม่น้ำเพื่อความสะดวกทางการสัญจรทางน้ำเป็นหลัก เพราะฉะนั้นการซื้ออาหาร ของกิน หรือสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็อาศัยซื้อจากเรือที่แล่นมาเทียบท่าน้ำหน้าเรือน จนกระทั่งสมัยรัชกาลที่ 5 อิทธิพลจากโลกตะวันตกได้เข้ามาในไทย ทำให้มีการสร้างถนนสายแรกขึ้น ซึ่งถนนสายแรก ๆ ของไทย ก็จะมีเช่น ถนนเจริญกรุง บำรุงเมือง เฟื่องนคร
เมื่อมีถนนก็มีการสร้างอาคารตึกแถวแบบตะวันตกตามแนวถนน เกิดเป็นย่านที่อยู่อาศัยและย่านการค้า ผู้คนก็เริ่มหันหน้าเข้าหาถนนและสัญจรทางบกมากขึ้น จึงเริ่มมี “หาบเร่และแผงลอยขายอาหาร” และเมื่อเมืองเจริญขึ้น ย่านที่อยู่อาศัยและการค้าขยายตัว มีถนนหลายสายมากขึ้น หาบเร่และแผงลอย หรืออาหารริมฟุตบาทก็ขยายตัวตามไปด้วย
การพัฒนาย่าน “สามย่าน - บรรทัดทอง” ที่ไม่ง่ายแต่มีต้นทุนแข็งแรงเป็นทุนเดิม
การพัฒนาพื้นที่ให้เป็น “ย่าน” ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยเพราะมีหลายองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญที่สุดคือผู้คนที่จะเข้ามาใช้พื้นที่นั้น ๆ นั่นก็คือผู้ค้าและผู้ขาย แต่สำหรับพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ จุฬา - บรรทัดทอง - สามย่าน นั้นเป็นย่านที่มีศักยภาพสูงด้วยหลายปัจจัยที่ลงตัว ประการแรกคือ พื้นที่แห่งนี้มีสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ (PMCU) มีโครงการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่อยู่แล้ว มีการจัดหมวดหมู่ร้านค้า(Zoning) ให้มีเอกลักษณ์และความชัดเจน อย่างที่เลือกให้บรรทัดทอง - สามย่านเป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ดของเมืองไทย
“สามย่าน - บรรทัดทองมีต้นทุนที่ดีมากอยู่แล้วอันเนื่องมาจากเป็นถนนใจกลางกรุงเทพฯ ที่มีร้านอาหารที่หลากหลาย ทั้งร้านดั้งเดิมและร้านอาหารที่ย้ายมาจากตลาดน้อยและเยาวราช”
จากต้นทุนที่ดีดังกล่าว PMCU ได้ยกระดับทั้งพื้นที่ให้เป็นย่านสตรีทฟู้ดยุคใหม่ เน้นให้ร้านอาหารต่าง ๆ ปรุงอาหารที่ถูกสุขอนามัยและมีการจัดระเบียบพื้นที่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ดูทันสมัย เข้าถึงง่าย สะดวกและปลอดภัย แตกต่างจากภาพลักษณ์อาหารริมทางแบบเดิม
นอกจากต้นทุนด้านผู้ประกอบการอาหารริมทางที่มีอยู่แล้ว สามย่าน - บรรทัดทองยังเป็นทำเลทองที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ทั้งนิสิตนักศึกษา คนทำงานพนักงานออฟฟิศ และนักท่องเที่ยว ที่มีความต้องการบริโภคอาหารตั้งแต่มื้อเช้าจรดมื้อค่ำ
เมื่อคุณมาชิมอาหารที่สามย่าน - บรรทัดทองคุณจะได้สัมผัสถึงความครึกครื้นมีสีสันและพลังของคนหนุ่มสาว ที่นี่อาจจะทำให้คุณได้ย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาที่เป็นวัยรุ่น มีความสนุกสนานและมีชีวิตชีวาอีกด้วย
“สามย่าน” ย่านใจกลางกรุงเทพฯ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมัยใหม่
พื้นที่สามย่านเป็นพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่อยู่ใกล้กับแหล่งสถานศึกษาชื่อดังอย่างเช่น มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก โรงเรียนเตรียมอุดมฯ โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ เป็นต้น แต่ตัวชุมชนนั้นมีความเปลี่ยนจากในอดีตไปไม่น้อย โดยชุมชนเก่าส่วนใหญ่จะยังอยู่ในบริเวณตลาดสามย่านเก่า ส่วนตลาดสามย่านใหม่ก็ยังคงมีร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานเปิดให้บริการอยู่ เพียงแต่ไม่ได้มีชุมชนรายล้อมเหมือนในอดีต ซึ่งการค้าขายในย่านสามย่านปัจจุบันมีความผสมผสานทั้งร้านค้าดั้งเดิม ร้านค้าชื่อดังระดับตำนาน ไปจนถึง ร้านค้าสมัยใหม่ ร้านอาหารยุคใหม่ และร้านของหวานที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นสมัยใหม่
ในปัจจุบันนี้มีร้านค้าเก่าแก่และร้านค้าสมัยใหม่ผสมผสานกันไปจึงทำให้สามย่านเป็นย่านของกินชื่อดัง ทั้งของกินในตำนาน และของกินยอดฮิตตามกระแส แต่นอกจากในด้านของกินแล้วในด้านของการเจริญเติบโตของเมืองและสภาพแวดล้อมนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเช่นกันด้วยเพราะย่านใจกลางกรุงเทพฯ นี้มีความต้องการที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งศึกษามากขึ้น และที่ย่านนี้มีรถไฟฟ้า MRT สามย่าน ทำให้ที่ย่านนี้มีความสะดวกสบายมาก ตลาดคอนโดมิเนียมที่ย่านนี้ก็ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นตามความต้องการของผู้คนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในย่านใจกลางกรุงเทพฯ แห่งนี้
โดยการพัฒนาของย่านใจกลางกรุงเทพฯ นี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.โครงการคอนโดมิเนียมของเอกชน เป็นคอนโดมิเนียมบนที่ดินขายกรรมสิทธิ์ ส่วนใหญ่อยู่บริเวณถนนสี่พระยา ใกล้แยกสามย่าน เน้นชูจุดขายความเป็นชีวิตในใจกลางกรุงเทพฯ ที่ทั้งใกล้สถานศึกษาและแหล่งช็อปปิง เช่น ย่านสยาม และ 2.โครงการคอนโดมิเนียมสิทธิการเช่าบนที่ดินของสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และกลุ่มโกลเด้นแลนด์ที่ได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาพื้นที่ตลาดสามย่านเก่า บริเวณหัวมุมถนนพระราม 4 - พญาไท ได้พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ภายใต้ชื่อ “สามย่านมิตรทาวน์” ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน พื้นที่รีเทล โรงแรม และคอนโดมิเนียมขายสิทธิการเช่า
โดยสามย่านมิตรทาวน์นั้นได้เปลี่ยนโฉมทำเลให้เป็นพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้ 24 ชั่วโมงเพื่อดึงดูดคนวัยทำงานและคนรุ่นใหม่ โดยที่สามย่านมิตรทาวน์ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก คือ ร้านอาหาร (Dining) ร้านค้า (Shopping) ธุรกิจบริการ (Service) และพื้นที่รองรับไลฟ์สไตล์ (Space Service) ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตรในใจกลางกรุงเทพฯ ครอบคลุมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร, สถาบันทางการเงิน, บริการจัดส่งพัสดุ, Co - Working Space, ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น และร้านบอร์ดเกม ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยปลุกกระแสความนิยมที่มากขึ้นอย่างล้นหลามของสามย่านในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ทำเลอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
The Writer Opinions
สามย่าน - บรรทัดทองเป็นย่านที่ถ้าใครได้ยินก็จะนึกถึงแหล่งอาหารชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯ ที่มีกระแสตามโซเชียลมีเดียมากมาย ทั้งร้านเจ๊โอวชื่อดังที่เหล่าศิลปินดาราชอบมาเยือน หรือจะร้านโจ๊กสามย่านชื่อดังที่เป็นภาพจำของย่าน และร้านน้ำเต้าหู้เจ้วรรณที่ ”ลิซ่า” แห่งวง BLACKPINK ได้มาเช็คอิน เป็นต้น ทางผู้เขียนเองก็ได้มีโอกาสไปตามรอย เดินเล่นในย่านนี้ซึ่งสามารถบอกได้เลยว่ามีอาหารมากมายละลานตาเต็มไปหมด ทำให้ตัวผู้เขียนเองก็เลือกไม่ถูกเลยว่าอยากจะชิมร้านไหนก่อนกัน บรรยากาศที่นี่ในยามเย็นจัดได้ว่าครึกครื้นมีบรรยากาศมีชีวิตชีวามากแล้ว แต่เมื่อได้มาเดินในยามค่ำ ๆ ที่แห่งนี้จะมีบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีสีสันป้ายร้านไฟที่สว่างตามร้านรวงเต็มไปหมด ทางผู้เขียนจัดอันดับความประทับใจในการไปเดินเที่ยวย่านนี้พอ ๆ กับย่านเยาวราชเลยค่ะ เป็นการเปิดประสบการณ์ที่ดีมากทั้งอาหารและขนมที่อร่อย ย่านที่เต็มไปด้วยทั้งผู้คนไทยและชาวต่างชาติทำให้เราได้สัมผัสถึงชีวิตในอีกแบบที่สบาย ๆ ผ่อนคลายตัดกับความวุ่นวายในใจกลางกรุงเทพฯ ได้อย่างลงตัว
สามย่านกล่าวโดยรวมนั้นมีคุณสมบัติที่ดีในทุกด้านสำหรับการอยู่อาศัย จึงทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยของพื้นที่ย่านสามย่านที่มากขึ้นอย่างสูง อีกทั้งการที่อยู่ใกล้แหล่งสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพื้นที่บริเวณนี้ถึงเป็นที่น่าสนใจและน่าจับตามองในด้านการลงทุนอสังหาฯ และการมองหาคอนโดมิเนียมหรือที่พักอาศัยในสามย่านจึงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย
- หากคุณกำลังมองหาที่พักในย่านนี้คุณสามารถ คลิกได้ที่นี่ !
พื้นที่สามย่านแห่งนี้เป็นทั้งพื้นที่ที่โด่งดังไปด้วยสตรีทฟู้ดไทยที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ระดับสากลโลก พื้นนี้มีแต่ความครึกครื้นที่ถูกปลุกให้ตื่นโดยผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมไม่ขาดสายไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ทั้งในยามกลางวันและในยามค่ำมืด อีกทั้งพื้นที่นี้ยังมีสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่งที่อยู่ใกล้เคียง มีความทันสมัยและเป็นกระแสในเทรนด์โซเชียลตลอดเวลา ทำให้ด้วยเหตุนี้ สามย่านจึงกลายมาเป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนสมัยใหม่และเป็นสวรรค์ของเหล่านักชิม
Source : bangkokbiznews, pmcu.co.th, marketeeronline