ราชตฤณมัยฯ คาดการณ์พื้นที่ทำเลทองเมื่อประกาศร่วมเดินหน้าโครงการ Entertainment Complex ภายใต้ชื่อ The Royal Siam Heaven พร้อมลงชื่อ MOU กับบริษัทต่างประเทศ
ในวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้ดำเนินการจัดแข่งม้าในสนามม้านางเลิ้ง ได้ลงความเห็นร่วมเป็นหนึ่งในการเดินหน้าพัฒนาโครงการสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex โดยมี พลเอกจำลอง บุญกระพือ เป็นประธานอำนวยการราชตฤณมัยฯ ประกาศเปิดตัวพัฒนาพื้นที่เชิงพานิชยกรรมแบบผสมในชื่อ The Royal Siam Heaven หรือ ดินแดนสรวงสวรรค์แห่งอาณาจักรไทย ซึ่งวางแผนเป็นสถานบันเทิงครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียด้วยงบพัฒนาโครงการถึง 2 แสนล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว พัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มการสะพัดของเงินในระบบ
จากการแถลงข่าวตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา คาดว่าอยู่ในช่วงที่ระดมทุนจากนักลงทุนเอกชนรายใหญ่ และเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าปัจจุบันได้ลงนาม MOU ร่วมกับบริษัทต่างชาติจากประเทศเกาหลีใต้ที่เป็นบริษัทชั้นนำในการจัดการแข่งม้าและเชี่ยวชาญด้านเกมมิ่ง นอกจากนี้ยังอยู่ในการเจรจาร่วมลงทุนกับบริษัทจากสหรัฐและฮ่องกงด้วย
ราชตฤณมัยฯ มีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่โครงการให้เป็นผสมผสาน หรือ Mixed Use ตั้งแต่สนามแข่งม้า โรงพยาบาลและศูนย์ดูแลม้า พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การแข่งม้า โรงแรม ศูนย์การค้า ศูนย์สุขภาพ พื้นที่สีเขียว สนามมวย สนามกอล์ฟ และเมื่อร่างพระบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรแล้วก็จะจัดตั้งกาสิโนด้วย คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าใช้บริการสถานบันเทิงครบวงจรนี้ถึง 3 แสนคนต่อวัน
โดยวัตถุประสงค์ตามที่ นายพันธุ์ธัช แสงโชติ ว่าที่เลขาธิการราชตฤณมัยฯ ออกมาแถลงการณ์ในใจความที่ว่าโครงการที่ผลักดันในครั้งนี้คือแลนมาร์คใหม่ที่จะดึงดูดการมาเยือนของนักท่องเที่ยว มีกิจกรรมมากมายให้ได้ร่วมสนุกโดยมีกาสิโนเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่พอให้สนุกแบบพอหอมปากหอมคอเท่านั้น
แบ่งการพัฒนาเป็น 3 ช่วงระยะ หรือ 3 เฟสหลัก ได้แก่
ระยะที่ 1 สนามม้า เนื้อที่ 1,250 ไร่และคลับเฮาส์
ระยะที่ 2 โรงแรม ศูนย์สุขภาพ สนามกอล์ฟ ต่าง ๆ
ระยะที่ 3 สถานบันเทิงครบวงจรซึ่งรวมกาสิโน เมื่อพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรผ่าน
พื้นที่ที่คาดว่าจะพัฒนาสนามม้าและสถานบันเทิงครบวงจร คือ จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยมีข้อดีอย่างหนึ่งคือไม่จำเป็นต้องสร้างหรือสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวก หรือโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพิ่มเติม และคาดว่าหากกระจายสถานบังเทิงครบวงจรนี้ออกไปยังเมืองปริมณฑล เมืองรองต่าง ๆ ประมาณ 2-3 ที่อาจจะทำให้เกิดการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น
เปิดโผนักลงทุนรายใหญ่สนใจ Entertainment Complex
เริ่มต้นที่กลุ่มนักลงทุนไทยเป็นอันดับแรก โดยมี 3 กลุ่มที่เริ่มออกมาเคลื่อนไหวแสดงความสนใจในธุรกิจสถานบันเทิง ซึ่งประกอบด้วย
1. กลุ่ม UTA หรือ บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด มีเป้าหมายลงทุนสถานบันเทิงฯ ต่อยอดสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยกลุ่ม UTA ซึ่งประกอบด้วย
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รองรับการเดินทางจากทั่วโลกมีจุดหมายมากกว่า 20 แห่ง
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮสดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการในธุรกิจคมนาคม ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบริการ
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินการในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และงานด้านวิศวกรรม
2. กลุ่ม CP มีเป้าหมายลงทุนสถานบันเทิงฯ ต่อยอดแผนรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ซึ่งบริษัทเครือซีพีได้รับสิทธิในการพัฒนาพื้นที่ตรงมักกะสันและศรีราชา
3. กลุ่ม The Mall Group ที่มีจุดหมายการลงทุนสถานบันเทิงฯ ในโครงการที่กำลังสร้างบนพื้นที่สี่แยกบางนา ซึ่งคาดว่าคือ Bangkok Mall
และสำหรับกลุ่มนักลงทุนจากต่างประเทศ ตอนนี้เปิดเผยแล้วว่ามีทั้งหมด 5 เจ้าใหญ่ ได้แก่
1. Las Vegas Sands Corporation บริษัทยักษ์ใหญ่จากอเมริกาผู้นำธุรกิจรีสอร์ทและกาสิโน ก่อตั้งโดย Sheldon Adelson เจ้าของอาณาจักร The Venetian ทั้ง Las Vegas และ Macao, Sands Macao, Marina Bay Sands จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและเป็นส่วนหนึ่งของ S&P 500
2. Wynn Resorts ก่อตั้งโดย Steve Wynn มุ่งเป้าที่ความหรูหราและเทคโนโลยีนำสมัย ครอบครองธุรกิจ Wynn Las Vegas, Encore Las Vegas, Encore Boston Harbor, Wynn Macau, Wynn Palace และ Wynn Interactive
3. Caesars Entertainment เจ้าของธุรกิจในหลายประเทศอย่างสหรัฐฯ ได้แก่ Caesars Palace Harrah’s, Horseshoe ดูไบ Caesars Palace Dubai และมีการลงทุนในกาสิโนหลายแห่งของสหราชอาณาจักรและแคนาดาหลายแห่ง นอกจากนี้ยังจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในสัญลักษณ์ CZR
4. MGM China Holdings Limited บริษัทย่อยของ MGM Macau, MGM Cotai จดทะเบียนหลักทรัพย์ฮ่องกงแล้ว ในสัญลักษณ์ 2282.HK
5. Hard Rock International ก่อตั้งโดย Isaac Tigrett & Peter Morton เจ้าของ Hard Rock Cafe, Hard Rock Hotels ประกอบธุรกิจหลากหลาย และยังมีกาสิโนหลายรัฐในอเมริกา เช่น ฟลอริดา เนวาดา นิวเจอร์ซีย์ อินเดียนา และมิสซิสซิปปี และต่างประเทศ เช่น Hard Rock Hotel Singapore, Hard Rock Hotel & Casino Manila
เคาะ 3 พื้นที่คาดการณ์สร้างสถานบังเทิงครบวงจรตามราชตฤณมัยฯ
แม้จะยังไม่มีการการันตีชัดเจน เพราะอยู่ในช่วงที่กำลังมองหาทำเลทองดี ๆ แต่ก็คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ทำเล 3 แห่งนี้
1. หนองจอก พื้นที่ 1,000 ไร่
2. ลาดกระบัง พื้นที่ 2,000
3. ท่าเรือคลองเตย หรือท่าเรือกรุงเทพ พื้นที่ 2,350 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาเป็นพื้นที่ Mixed Use ตามแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่าเรือคลองเตยอาจจะได้พัฒนาตามโครงการ Entertainment Complex มีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง ใกล้แม่น้ำ ใกล้สนามบิน และอยู่ใจกลางเมือง อาจสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้
ไม่ว่าจะมีกาสิโนหรือไม่ ราชตฤณมัยฯ ตั้งมั่นที่จะสร้างสถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่เพื่อหาเม็ดเงินให้กับประเทศไทย สร้างสถานบันเทิงครบวงจรที่ใหญ่ที่สุด เป็นสถานที่แบบ World Class ระดับเอเชีย ตั้งใจในการสร้างอาชีพสร้างงานสร้างเงินให้กับคนไทย พัฒนาเศรษฐกิจและสร้างเงินหมุนสะพัดในระบบ และช่วยให้ผู้ที่ทำอาชีพเกี่ยวกับม้ามีความมั่นคงขึ้นด้วย ซึ่งหากได้รับใบอนุญาตเมื่อไหร่ ก็พร้อมที่จะเริ่มแผนทันทีโดยประมาณพื้นที่ที่ใช้ทั้งหมด 2,150 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทั้งหมด 3 - 5 ปี หลังเริ่มก่อสร้าง ถ้าไม่ติดขัดอะไร คาดว่าจะในปี 2570 น่าจะได้เริ่มเห็นโครงการแล้ว
Source: 3PlusNews, The Standard, MGR ONLINE, POST TODAY, ฐานเศรษฐกิจ, มติชนออนไลน์, ไทยรัฐออนไลน์